วันก่อนได้อ่านบทความของตลาดหลักทรัพย์ในเว็บไซต์ https://www.set.or.th ซึ่งน่าสนใจดี อ่านได้เพลินๆ พวกเรา huahin.space blogger เห็นอะไรดีดี มีประโยชน์กับ #คนหัวหินเพชรบุรี ก็อยากนำมาแชร์ให้ได้รู้ได้เห็นได้ทราบกัน ไม่พูดเยอะล่ะ เนื้อหาบทความตามนี้เลยยยย
ขอขอบคุณบทความจาก ห้องเรียนนักลงทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
>>>
ทุกวันนี้ค่าครองชีพสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แค่ก้าวออกจากบ้านก็อาจต้องควักกระเป๋ากันแล้ว ที่สำคัญคนมีอายุยืนยาวขึ้น จึงมีคำถามว่าถ้าเก็บเงินเดือนละ 10 – 15% เพื่อเตรียมไว้ใช้ตอนเกษียณจะเพียงพอหรือไม่ ทำให้หลายคนที่กังวลกับชีวิตหลังเกษียณจึงเก็บเงินเพิ่มเป็นอย่างน้อยๆ 20% ต่อเดือน
เงินเดือน 15,000 บาท เก็บ 3,000 บาท
เงินเดือน 20,000 บาท เก็บ 4,000 บาท
เงินเดือน 30,000 บาท เก็บ 6,000 บาท
เงินเดือน 50,000 บาท เก็บ 10,000 บาท
อย่างไรก็ตาม มีอีกหลายคนตั้งคำถามว่า “ขนาดเก็บ 15% เลือดตายังแทบกระเด็น จะให้เพิ่มมากกว่านี้คงไม่ไหว” หากดูเผินๆ ดูเหมือนยาก แต่ยังมีทาง ถ้าเป็นเช่นนั้นมาดูกันว่าผู้ที่เก็บเงินได้อย่างน้อย 20% ในแต่ละเดือนและยังเหลือเงินใช้จ่ายกันสบายๆ มีกลยุทธ์อย่างไร
1. หลีกเลี่ยงเป็นหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูง
หลายคนมีบัตรเครดิต 4 – 5 ใบ พ่วงด้วยบัตรกดเงินสดอีกหลายใบ และไม่ว่าจะใช้จ่ายอะไรก็รูดด้วยบัตรเหล่านี้จนหนี้สินพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อถึงเวลาชำระหนี้ก็จะจ่ายในอัตราขั้นต่ำ ถ้าเดือนไหนไม่มีเงินพอจ่ายหนี้ก็จะใช้วิธีกดเงินสดจากบัตรใบแรก เพื่อจ่ายใบที่สอง ผลที่ตามมาคือ เจอดอกเบี้ยจนอ่วม
18% คือ ดอกเบี้ยบัตรเครดิต
28% คือ ดอกเบี้ยบัตรกดเงินสด
ดังนั้น ถ้าอยากจะมีเงินเหลือในแต่ละเดือนให้มากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเป็นหนี้ โดยเฉพาะหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงๆ หรือควรมีบัตรเครดิต 1 – 2 ใบ โดยใช้อย่างมีวินัย และชำระหนี้เต็มจำนวนเพื่อจะได้ไม่ต้องเสียดอกเบี้ย
2. รู้เส้นทางการเงิน
หลายคนไม่รู้ว่าเงินเดือนหมดไปกับอะไรบ้าง เพราะมักคิดแต่เรื่องใช้จ่าย หากเป็นแบบนี้ก็จะเก็บเงินไม่อยู่ ดังนั้น ถ้าอยากเก็บเงินให้ได้เยอะๆ ต้องเริ่มจากจดบันทึกรายรับ – รายจ่ายประจำวัน จากนั้นก็รวบรวมข้อมูลการเงิน เช่น สมุดบัญชีเงินฝาก ข้อมูลการลงทุน การใช้จ่ายเงิน เพื่อทำให้รู้เส้นทางเงินของตัวเอง เช่น รายรับมาจากไหน เท่าไหร่ ซื้ออะไรไปบ้าง ซื้อวันไหน กี่บาท เมื่อบวกลบออกมาแล้วเป็นอย่างไร
วิธีการนี้จะทำให้รู้ว่ามีหลายอย่างที่ไม่ควรซื้อ บางคนถึงกับตกใจ “ซื้อไปได้อย่างไร” “ซื้อตอนไหน” ก็ทำให้เกิดอาการเสียดาย
3. รู้จักลงทุน
พอมีเงินเหลือมากขึ้น ต้องนำไปลงทุนเพื่อให้ออกดอกออกผล หากรับความเสี่ยงได้ต่ำ ก็ลงทุนกองทุนรวมตลาดเงิน กองทุนรวมตราสารหนี้ รับความเสี่ยงได้สูงขึ้นอาจลงทุนกองทุนรวมผสม กองทุนรวมหุ้น และถ้ารับความเสี่ยงได้สูงมากขึ้นก็ลงทุนหุ้นโดยตรง แต่ทุกการลงทุนมีความเสี่ยงก็ต้องศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจ
4. คิดถึงชีวิตวัยเกษียณ
เวลาถามคนที่เก็บเงินในแต่ละเดือนได้เยอะๆ มักจะได้คำตอบว่า “เก็บไว้ใช้ตอนเกษียณ” ที่สำคัญส่วนใหญ่เริ่มวางแผนการเงินตั้งแต่อายุไม่เยอะ เช่น 25 ปี ก็เริ่มเก็บเงินและนำไปลงทุน ขณะเดียวกันก็เก็บเงินผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและกองทุน RMF ด้วย ดังนั้น หากวางแผนการเงินและจัดพอร์ตลงทุนให้เหมาะสมก็จะมีเงินใช้เพียงพอตอนเกษียณ
5. ลดความอยาก
ผู้ที่มีเงินเก็บไม่ใช่คนขี้เหนียว แต่รู้จักคุณค่าเงิน คือ ซื้อในสิ่งที่ควรซื้อหรือก่อนซื้ออะไรก็ถามตัวเองว่า “ซื้อแล้ว จะใช้หรือไม่” ถ้าคำตอบคือ “ไม่” ก็จะเลือกเก็บเงินเอาไว้ ดังนั้น ผู้ที่รู้จักควบคุมความอยากได้ อยากมี จะมีเงินเหลือในแต่ละเดือนอย่างแน่นอน
หมายเหตุ : บทความนี้เพื่อใช้สำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
ฐิติเมธ โภคชัย
ผู้บริหารงาน ฝ่ายพัฒนาความรู้ผู้ลงทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
>>>